ถามตอบ
กลุ่มพฤกษาก่อตั้งในปี 2536 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภททาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียมทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดที่มีศักยภาพและการเติบโตสูง รวมถึงการเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมการใช้ชิ้นส่วนพรีคาสท์ด้วยมาตรฐานระดับโลกมาใช้ในการก่อสร้างเพื่อพัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่องภายใต้การดำเนินงานของ บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท ต่อมาในปี 2559 ได้ปรับโครงสร้างกิจการเป็นการถือหุ้นในบริษัทอื่น (โฮลดิ้ง) โดยการแลกเปลี่ยนหุ้นสามัญระหว่าง บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท และ บมจ. พฤกษา โฮลดิ้ง ในอัตรา 1 ต่อ 1 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ เปิดโอกาสในการหาผู้ร่วมทุนที่มีความชำนาญเฉพาะในแต่ละธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของโครงสร้างการจัดการขององค์กรเพื่อให้เหมาะสมกับการประกอบธุรกิจในอนาคต ปัจจุบันมีการดำเนินงานใน 2 ธุรกิจหลัก โดยรายได้หลักของกลุ่มยังคงมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ซึ่งได้จำหน่ายที่อยู่อาศัยไปแล้วกว่า 300,000 หลัง และรายได้ที่เติบโตขึ้นจากธุรกิจเฮลท์แคร์ ซึ่งประกอบกิจการโรงพยาบาล 2 แห่ง ทั้งวิมุต พหลโยธิน และวิมุต-เทพธารินทร์ รวมถึงเนอร์ซิ่งโฮมดูแลผู้สูงอายุจำนวน 3 แห่ง และคลินิกอีก 1 แห่ง
เป้าหมายของกลุ่มพฤกษา ได้แก่ การเสริมสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มธุรกิจหลัก การกระจายการเติบโตเพื่อสร้างความมั่นคงของผลกำไร และการเพิ่มสมรรถนะในการแข่งขัน
โดยมี กลยุทธ์เชิงรุก เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและเร่งการเติบโต แบ่งเป็น
- ขยายจุดเด่นด้าน Wellness Residences เพื่อเชื่อมโยงและเพิ่มมูลค่าระหว่างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจเฮลท์แคร์อย่างสมบูรณ์
- ปรับปรุงทิศทางการลงทุนระยะยาว ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อสร้าง รายได้ประจำในระยะยาว
กลยุทธ์เชิงรับ เพื่อรักษาข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน แบ่งเป็น
- บริหารสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ เน้นการลงทุนในธุรกิจหลักให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน และลดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพลง
- เสริมสภาพคล่อง รักษากระแสเงินสดให้เพียงพอต่อการลงทุนและการขยายกิจการ
- บริหารต้นทุนให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งกลุ่ม และจัดการกับค่าใช้จ่ายให้สอดรับกับสถานการณ์ที่ท้าทายมากขึ้น
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มุ่งเน้นการเปิดโครงการใหม่สู่ลูกค้าระดับกลางถึงบนและสร้างการอยู่อาศัยแบบอยู่ดีมีสุขเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงบริหารจัดการลดสินทรัพย์ที่ไม่มีคุณภาพ ควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพื่อสร้างอัตรากำไรให้ดีขึ้น
โดยมี กลยุทธ์เชิงรุก แบ่งเป็น
- เปิดโครงการในแบรนด์ระดับบนเพิ่มขึ้น ผ่าน 2 แบรนด์หลัก คือ The Palm และ The Reserve
- ร่วมมือบริษัทในเครือในกลุ่มโรงพยาบาลวิมุต เพื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งทางกาย ใจ และสังคม ผ่าน 2 แบรนด์หลัก คือ The Palm และ Pine
- ขยายฐานความต้องการสู่กลุ่มลูกค้าต่างชาติ ผ่าน 3 แบรนด์หลัก คือ The Palm, Patio และ Passorn
- เสริมความแข็งแกร่งแก่แบรนด์คอนโดนิเมียมระดับกลางถึงล่าง คือ Chapter One, The Privacy และ Plum Condo
กลยุทธ์เชิงรับ แบ่งเป็น
- จัดสรรสินทรัพย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการขายที่ดินที่ไม่ได้พัฒนา หรือนำกลับมาพัฒนาโครงการใหม่
- เร่งปิดโครงการเก่าเพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น โดยปรับสัดส่วนทาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยวให้อยู่ใกล้เคียงกัน
- บริหารจัดการการขายในรูปแบบโซนนิ่ง เพื่อบริหารทรัพยากรอย่างเหมาะสมและสามารถปิดการขายได้ตรงความต้องการของลูกค้า
- ร่วมมือกับบริษัทในเครือทั้งอินโน โฮม คอนสตรัคชั่น (บริษัทรับเหมาก่อสร้าง) และ อินโน พรีคาสท์ (บริษัทผลิตและติดตั้งแผ่นพรีคาสท์) เพื่อลดความกังวลในการจัดหาผู้รับเหมาที่มีมาตรฐาน มีการรับประกัน และควบคุมสินค้าคงคลังได้อย่างแม่นยำ เพราะเป็นการบริหารทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ
ธุรกิจเฮลท์แคร์ แคร์ มีเป้าหมายเพื่อเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอให้กับกลุ่ม PSH โดยดำเนินกิจการโรงพยาบาลเอกชน มุ่งเน้นการให้บริการผ่านศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงและโดดเด่นของทั้งกลุ่ม ด้วยราคาที่แข่งขันได้เมื่อเทียบกับโรงพยาบาลในบริเวณใกล้เคียง โดยมีแผนการเติบโตเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า ผ่านกลยุทธ์ดังนี้
- โรงพยาบาลแต่ละแห่งต้องมีศูนย์ความเป็นเลิศและความโดดเด่นเป็นของตนเอง โดยปัจจุบัน โรงพยาบาลวิมุตพหลโยธินจะเน้นไปที่ศูนย์ปอด หัวใจ ทางเดินอาหาร สมอง และกระดูก สำหรับโรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ มุ่งสร้างความโดดเด่นในด้านเบาหวานและไทรอยด์อย่างต่อเนื่อง
- สร้างการบริการที่มีคุณภาพผ่าน Wellness Residence ให้กับลูกบ้านของพฤกษา และการให้บริการในเชิง Medical Tourism แก่คนไข้ทั่วไปทั้งไทยและต่างชาติ
- ขยายขีดความสามารถ ด้วยการเปิดโรงพยาบาลใหม่อีก 3 แห่ง ประกอบด้วย ทองหล่อ สุขุมวิท และ ปิ่นเกล้า โดยในแต่ละแห่งจะมุ่งเน้นความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน
- เพิ่มการรับรู้และการเข้าถึงคนไข้ต่างชาติทั้งที่ทำงานในไทยและบินเข้ามารับการรักษาในไทย โดยเน้นที่คนไข้ในกลุ่ม CLM จีน อาหรับ รวมถึงฝั่งยุโรปและอเมริกา
พฤกษา โฮลดิ้ง เน้นการลงทุนใน 2 ธุรกิจหลักทั้งอสังหาริมทรัพย์และเฮลท์แคร์ มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านการอยู่อาศัยที่ผสานความเป็นอยู่ที่ดีควบคู่การบริการด้านสุขภาพ นอกเหนือจากการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักแล้วนั้น กลุ่มพฤกษายังมุ่งสร้างรายได้ให้มีความสม่ำเสมอ โดยร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกภายใต้กองทุน
CapitaLand Wellness Fund (C-Well)
เกิดจากการร่วมทุนกับ CapitaLand Investment จากประเทศสิงคโปร์ มีเป้าหมายเพื่อลงทุนในโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อสุขภาพและไลฟ์สไตล์ และโครงการแบบผสมผสาน (mixed-use) ที่มีองค์ประกอบของธุรกิจเพื่อสุขภาพ โดยมีมูลค่ากองทุนเริ่มต้นที่ 8,750 ล้านบาท และมีโอกาสขยายมูลค่าสูงสุดเป็น 25,000 ล้านบาท และ
CapitaLand SEA Logistics Fund (CSLF)
เกิดจากการร่วมทุนกับ CapitaLand Investment จากประเทศสิงคโปร์ Ally Logistic Property จากไต้หวัน และ Mitsui O.S.K. Lines จากประเทศญี่ปุ่น มีเป้าหมายเพื่อลงทุนและพัฒนาสินทรัพย์ด้านโลจิสติกส์ รวมถึงการบริการโลจิสติกส์อัจฉริยะครอบคลุมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีมูลค่ากองทุนเริ่มต้นที่ 6,750 ล้านบาท และมีโอกาสขยายมูลค่าสูงสุดเป็น 13,500 ล้านบาท
พฤกษา โฮลดิ้ง มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองตามที่กฎหมายกำหนด โดยพิจารณาจ่ายปีละ 2 ครั้ง ซึ่งจำนวนเงินปันผลจะต้องไม่เกินกำไรสะสมที่ปรากฏอยู่ในงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ โดยในการจ่ายเงินปันผลจะต้องคำนึงถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่เข้าไปลงทุน นโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทย่อยและ/หรือบริษัทร่วมที่เข้าไปลงทุน แผนการลงทุนและขยายธุรกิจ เงื่อนไขและข้อจำกัดตามที่กำหนดไว้ในสัญญากู้ยืมเงิน และตามความจำเป็นในอนาคตของบริษัทฯ ตามที่คณะกรรมการบริษัทพิจารณาเห็นสมควร
พฤกษา โฮลดิ้ง มุ่งมั่นส่งมอบการอยู่อาศัยที่ดีให้ทั้งผู้คน ชุมชน และสังคมที่เราดููแล ผ่านแกน
ด้านสิ่งแวดล้อม
ด้วยการตั้งเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 30 ภายในปี 2573 การมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2608
ด้านสังคม
มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างสังคมที่อยู่ดีมีสุข ผ่านโครงการ Accelerate Impact with PRUKSA เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่ผู้ที่ต้องการโอกาสในสังคม และ
ด้านธรรมาภิบาล
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่่างยั่งยืน เดินหน้าต่อต้านการคอร์รัปชันและการจ่่ายสินบนทุุกรููปแบบ และได้รับการจัดอันดับอยู่ในระดับดีเลิศของการสำรวจการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของโครงการ